สมรรถนะรถของรถเเต่ละรุ่น

รถรุ่นใหญ่อีกรุ่นที่เปี่ยมด้วยสมรรถนะอย่างรุ่น Vision Tour ถือเป็นสุดยอดของรถสำหรับเดินทางไกล ตำแหน่งการขับขี่ถูกออกแบบให้นั่งสบาย เบาะนั่งมีความกระชับรองรับสรีระของผู้ขับขี่ สามารถเข้ากับช่วงสะโพกและหลัง ซึ่งช่วยให้ผู้ขับขี่ขับได้อย่างสนุกสนานและสะดวกสบายแม้ต้องนั่งอยู่บนรถมากกว่า 8 ชั่วโมงต่อวัน นอกจากมีดีไซน์ที่สวยหรูอย่างเหนือระดับแล้ว ยังเพียบพร้อมและอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีของความสะดวกสบายและการขับขี่ แผ่นกันลมหน้าปรับระดับด้วยไฟฟ้า สามารถเปลี่ยนอารมณ์การขับขี่ในยามเข้าเมืองหรือระหว่างการเดินทางไกล สมรรถนะในการขับเข้าโค้งทำได้ทั้งแบบโหนทั้งตัวในเวลาเจอกับโค้งกว้างและต้องใช้ความเร็วสูง หรือโยกเฉพาะรถเมื่อเจอกับโค้งแคบในระดับความเร็วต่ำ

Suzuki GSX-R10004

ซูซุกิ จีเอสเอ็กซ์-อาร์ 1000 ใช้ช็อคอัพหน้าแบบ โชวะ Big Piston Front fork และช็อคอัพหลังแบบ Showa Link Type Oil damped Coil Spring พร้อมยางที่ยึดเหนี่ยวการหมุน และเกาะถนนได้อย่างดีเยี่ยมในยางหน้า  17M-C 58W tubeless, ยางหลัง  17M-C 73W tubeless และให้คุณเร่งความมันส์กับ 6เกียร์ ในเครื่องยนต์ 999CC 4จังหวะ 4กระบอกสูบ  DOHC ระบายความร้อนด้วย ลิควิดแอร์ และจ่ายร้ำมันด้วย Suzuki Fuel Injection และสตาร์ทความแรงด้วยระบบไฟฟ้า ให้คุณได้ขับขี่อย่างรวดเร็วทันใจเต็มสมรรถนะไปเ้ลย

2012 Aprilia RSV4 R APRC

สำหรับเวอร์ชั่น APRC ที่ย่อมาจาก Aprilia Performance Ride Control เป็นการยืนยันถึงประสิทธิภาพในการขับขี่  เป็นระบบการควบคุมการขับขี่ด้วยระบบอิเล็คทรอนิคแม็กนีติก  ที่สามารถแปรผันและปรับเปลี่ยนได้ถึง 8 ระดับ เพื่อความเสถียรภาพและปลอดภัยสูงสุด  ซึ่งสามารถเลือกโหมดการขับขี่หลักได้ถึง 3 แบบ คือ T (Track), S (Sport), R (Road) เสริมด้วยเทคโนโลยี Full Ride-by-Wire จึงทำให้การขับขี่มีความง่ายยิ่งขึ้น  ส่วนเครื่องยนต์ก็ถือว่าสุดยอด เพราะเป็นบล็อคเดียวกับ RVS4R Factoty WSB เป็นเครื่องยนต์ 65° V4 cylinder แผ่นวาล์วใช้วัสดุ Titanium และ Nymonic จ่ายเชื้อเพลิงแบบ 8 อินเจ็คชั่น  (/2 อินเจ็คชั่นต่อสูบ) ปริมาตรกระบอกสูบ 999.6 ซีซี. ให้กำลังสูงสุด 180 Hp ที่ 12,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 115 Nm ที่ 10,000 รอบ/นาที นับได้ว่า…เป็นสุดยอดแห่งรถซูเปอร์ไบค์อีกเวอร์ชั่นหนึ่ง

2012 Yamaha YZF-R1

สำหรับเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของ Yamaha YZF-R1 นอกเหนือจากเทคโนโลยีที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากสนามแข่ง WSB แล้ว ยังนำทเคโนโลยีใหม่ล่าสุดในสนามแข่ง Moto GP ของรุ่น M1 ที่ติดตั้งในรถแข่งตัวใหม่ล่าสุดเลยทีเดียว  โดยเครื่องยนต์เป็นแบบ Ultra-lightweight DOHC 16 วาล์ว วางเอียง 40 องศา ปริมาตรกระบอกสูบ 998 ซีซี.  แผ่นวาล์วแบบไททาเนียมขนาด 31 มม. และมีการปรับปรุงกล่อง ECU ใหม่ ที่ว่ากันว่า “สั่งงานได้รวดเร็วและแม่นยำ” ด้วยระบบไมโครคอมพิวเตอร์ 32 บิท พร้อมด้วยเทคโนโลยีระดับไฮเอ็นท์ที่เป็นตัวช่วยอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบ YCC-I (Yamaha’s Chip Controlled Intake), YCC-T (Yamaha Chip Control Throttle) สมรรถนะโดยรวมถือได้สุดยอดจนแทบจะหาคู่แข่งจับตัวได้ยาก  ดังนั้น เมื่อความแรงจัดจ้านที่เพิ่มขึ้นจึงมีการปรับปรุง Ram Air และท่อไอเสียใหม่หมด โดยใช้แบบเดียวกับ M1 จึงทำให้กลายเป็น…สุดยอดซูเปอร์ไบค์ที่ทุกคนต่างรอดูผลงาน

2012 BMW S1000RR

หลังจากที่เปิดตัวไปครั้งแรกเมื่อปี 2009 สำหรับ S1000RR ก็ถือได้ว่าประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในยุโรปและอเมริกา แม้ว่าจะยังไม่ประสบความสำเร็จในสนามแข่งก็ตาม แต่ด้วยดีกรีของ BMW Motorrad ก็เรียกศรัทธาและการนอมรับมากกว่าปกติ และเมื่อเราเจาะลึกเข้าไปถึงเทคโนโลยีและสมรรถนะแล้ว ก็ต้องบอกว่า S1000RR คือจ้าวแห่งซูเปอร์สปอร์ตตัวจริง
สำหรับโมเดลใหม่ล่าสุด ก็ยังคงใช้เครื่องยนต์ตัวเดิม เป็นเครื่องยนต์ 4 สูบ DOHC (4 วาล์วต่อสูบ) ปริมาตรกระบอกสูบ 999 ซีซี. มีน้ำหนักเพียงแค่ 59.8     กก. แต่ให้กำลังที่ออกมาถึง 193 แรงม้า (142 Kw) ที่ 13,000 รอบ/นาที แรงบิดที่ 112 Nm ที่ 9,750 รอบ/นาที นอกจากนั้นเพื่อความสะดวกยังมีการเพิ่มโหมดการขับขี่ ไม่ว่าจะขับขี่ในสไตล์ Sport, Rain, Race และ Slick นอกเหนือจากนั้นยังมีระบบ Dynamic Traction Control (DTC) และระบบเบรก ABS ที่ถือได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่เหนือกว่าที่ประจำการในรถ BMW เกือบทุกรุ่น  ส่วนโครงสร้างใช้อลูมิเนียมในแบบ Bridge frame โช้คอพัหน้าแบบหัวกลับขนาด 46 มม. ผสานกับ Two arm swinging fork ทำให้การทรงตัวยอดเยี่ยม และกฌถือได้ว่าเป็นจุดเด่นที่เหนือกว่าคู่แข่ง

Honda CBR1000RR C-ABS โมเดลใหม่นี้ถือได้ว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวที่สมบูรณืแบบที่สุดของ ความแรง สมรรถนะ ความปลอดภัย และรูปลักษณ์มากที่สุด โดยเครื่องยนต์ยังคงใช้ตัวเดิมแบบ 4 สูบ 16 วาล์ว (4 วาล์วต่อสูบ) ปริมาตรกระบอกสูบ 999 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาดกระบอกสูบ x ช่วงชัก 76 x 55.1 มม. อัตราส่วนกำลังอัด 12.3 : 1 โครงสร้างใช้อลูมิเนียมทั้งหมดแบบ  twin-spar chassis  สำหรับในจุดที่มีการปรับเปลี่ยนใหม่ก็คือ โช้คอัพทั้งหน้าและหลัง โดยด้านหน้าเป็นแบบ Uni Pro-Link ส่วนด้านหลังเพิ่มขนาดกระบอกโช้คให้ใหญ่ขึ้น, ล้อเป็นแบบอลูมิเนียม 21 ก้าน, ปีดโดมิเตอร์เป็นจอ LCD มัลติฟังค์ชั่น พร้อมทั้งเพิ่มระบบเบรก ABS ซึ่งแน่นอนว่า…ด้วยการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โยเฉพาะเวอร์ชั่น 2012 น่าจะเป็นเวอร์ชั่น “ฉลอง 20 ปี” ที่ตลาดจะไปได้ดีกว่าเวอร์ชั่นก่อนหน้านี้อย่างแน่นอน…

Ninja ZX-6R ใช้เครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว (4 วาล์วต่อสูบ) ระบายความร้อนด้วยน้ำ ปริมาตรกระบอกสูบ 599 ซีซี. ขนิดกระบอกสูบ x ช่วงชัก 67.0 x 42.5 มม. ระบบจ่ายน้ำมันแบบหัวฉีด EFI (Keihin ø38 mm x 4) มีการพัฒนาชุดลูกสูบและระบบจ่ายน้ำมันใหม่  ให้ความแรงที่เร้าใจสุดๆ ถึง 134PS (with RAM Air) หรือ 98.5 kW ที่ 14,000 รอบ/นาที และให้แรงบิดถึง 66.7 Nm อัตราว่วนกำลังอัด 13.3 : 1 ส่วนในเรื่องสมรรถนะการขับขี่ก็ค่อนข้างโดดเด่น เพราะโมเดลนี้จะเน้นทั้งในรูปแบบ Race & Track รวมถึงในแบบ Streed ให้การควบคุมที่ง่าย การทรงตัวมั่นคงในระบบออโร่ไดนามิคที่เป็นเอกลักษณ์ของรถในตระกูล ZX พร้อมทั้งปรับตำแหน่งเบาะในต่ำลง ส่วนระบบกันสะเทือนมีการปรับปรุงใหม่ ใช้แบบ BPF (Big Piston Front fork) จาก Showa ซึ่งด้านหน้าใช้ขนาด 41 มม. โดยด้านหลังเสริมด้วยโช้คแก๊ส Bottom-Link Uni-Trak เชื่อขนมกินได้เลยว่า….เจ้านิจจา ZX-6R จะยังคงครองตลาดรถในคลาสนี้ไปอีกนานพอสมควร….